เรื่องเล่าของฉัน

อัสสลามูอาลัยกุ้ม 

ดิฉัน  ชื่อ  น.ศ มัยซูน ไซลามุ   เกิดวันที่ 20-10-2539 อายุ 19 ปี มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน

ดิฉันเป็นคนที่ 2 ในบ้าน ดิฉัน เป็นคนที่ดื้อที่สุด เป็นลูกสาวที่กล้าดีกล้าลอง ชอบในการท้าทายจับแตะต้องอะไรมันจะพังหรือเสียหมด ชอบความเป็นอิสระมาก ชอบในการทดลอง จนคุณพ่อคุณแม่ไม่ค่อยไว้ใจมากนัก ท่านจึงเป็นห่วงบ่อยๆ กับเด็กซนๆ ตอนเด็กๆเขามักจะคิดว่าเป็นสาวห้าวหรือป่าว! จนดิฉันเติบโต ซึ่งแตกต่างจากชีวิตเด็กมาก คือ ต้องทำตัวเป็นสาวเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น ซึ่งค่อนข้างลำบากนิดหนึ่ง แถมยังต้องดุด่ากับคุณแม่ประจำ เรื่องนิสัยใจร้อนของเรา รวมทั้งไม่ชอบเข้าครัว อีก  กว่าจะเปลี่ยนนิสัยเหล่านี้ได้ ถือว่าต้องใช้ความพยามมากที่สุดในชีวิต แต่ด้วยที่ว่า วุฒิภาวะเราสูงขึ้น เราจึงมีการเปลี่ยนแปลง การใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น  เพราะการที่เราจะอยู่ในสังคมได้เราต้อง เข้าใจเขา เข้าใจเรา จึงจะใช้ชีวิตในสังคมได้

            ปัจจุบันดิฉันมีการเปลี่ยนแปลงการเป็นอยู่ และบุคลิกนิสัยมากแล้ว เพียงแค่คุณพ่อคุณแม่เข้าใจดิฉัน คอยสนับสนุน คอยส่งเสียเรียนหนังสือ เพียงแค่นี้ ดิฉันก็ไม่ขออะไรอีกแล้วค่ะ ถ้าไม่มีท่านทั้งสองคนนี้ ชีวิตของดิฉัน คงไม่ได้ยืน ณ ปัจจุบันหรอกค่ะ  ท่านทั้งสองไม่เคยบังคับ ไม่เคยทำไห้ดิฉันรู้สึก อยากจะทิ้งท่าน ดิฉัน อาจทำตัวดื้อมากไปบ้าง อะไรบ้าง เถียงกับท่านไปบ้าง  เพราะคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำดีที่สุดแล้ว

            ถึงฉันไม่ดีในสายใครๆ แต่ในสายตาของท่าน ดิฉัน ยังเป็นเด็กน้อยของท่านเสมอ

หนูไม่มีอะไรจะไห้ท่าน นอกจาก  ขอสัญญาจะดูแลท่านไห้ดีที่สุดเหมือนที่ท่านได้เลี้ยงดิฉันมา

ชิราชิซูชิ (Chirashi Sushi)

ชิราชิซูชิ (Chirashi Sushi)

ชิราชิซูชิ (Chirashi Sushi)

ซูชิประเภทนี้ชาวไทยรู้จักกันในนาม “ข้าวหน้าปลาดิบ” แต่อันที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องเป็นปลาดิบก็ได้ หัวใจสำคัญคือการใช้ข้าวซูชิ หรือข้าวสวยคลุกน้ำส้มใส่ชามไว้ แล้วเลือกท้อปปิ้งด้วยเนื้อปลาชนิดต่างๆ หลากหลายประเภทตามแต่พื้นที่ ไข่หวาน อะโวคาโด หรือผักต่างๆ ตามชอบ

 

เตมากิซูชิ (Temaki Sushi)

เตมากิซูชิ (Temaki Sushi)

เตมากิซูชิ (Temaki Sushi)

ซูชิประเภทนี้มีความคล้ายคลึงกับมากิซูชิ แต่จะต่างกันตรงที่เชฟจะห่อข้าวซูชิและไส้ต่างๆ ด้วยสาหร่ายกรอบให้เป็นรูปกรวย เพื่อให้ถือรับประทานได้ง่าย เป็นที่มาของคำว่า Temaki (Te แปลว่า มือ) และในภาษาอังกฤษจะเรียกมากิชนิดนี้ว่า Hand Roll หรือซูชิโรลมือถือนั่นเอง

โอชิซูชิ (Oshi Sushi)

โอชิซูชิ (Oshi Sushi)

โอชิซูชิ (Oshi Sushi)

ซูชิกดในแบบคันไซ ซึ่งจะนำเอาข้าวซูชิและปลาดิบเรียงลงในกล่องแล้วกดทับให้แน่น หน้าตาโอจิซูชิอาจดูคล้ายกับนิกิริซูชิ แต่จะต่างกันที่กรรมวิธีการทำ ที่จะใช้การกดข้าวให้แน่นแทนการปั้น ซูชิจะมีลักษณะเป็นแท่งสี่เหลี่ยม เพราะเกิดจากการอัดเป็นแท่งยาวแล้วถูกตัดแบ่งให้เป็นชิ้นพอดีคำ

 

นาเระซูชิ (Nare Sushi)

นาเระซูชิ (Nare Sushi)

นาเระซูชิ (Nare Sushi)

นาเระซูชิถือเป็นต้นกำเนิดของซูชิทั้งมวล โดยเป็นการนำปลา ข้าวสวย และเกลือมาหมักจนเกิดข้าวหมักและปลารสเปรี้ยว ซึ่งวิธีการหมักปลาเช่นนี้ ว่ากันว่าได้รับอิทธิพลมาจากอาหารบริเวณลุ่มน้ำโขงเรานี่เอง (ใกล้เคียงกับปลาส้ม) ปัจจุบัน นาเระซูชิที่ยังพบเห็นอยู่ ได้แก่ ฟุนะซูชิ ซึ่งจะใช้ปลาฟุนะหมักกับข้าว แม้จะมีกลิ่นเหม็นมาก แต่ถือเป็นอาหารหรู ราคาแพงไปแล้วในปัจจุบัน

นิกิริซูชิ (Nigiri Sushi)

นิกิริซูชิ (Nigiri Sushi)

นิกิริซูชิ (Nigiri Sushi)

ซูชิที่พวกเราคุ้นเคยกันมากที่สุด ใช้ข้าวผสมกับน้ำส้มสายชูปั้นเป็นก้อนรีแล้ววางเนื้อปลาไว้ด้านบน อาจป้ายวาซาบิไว้ที่เนื้อปลาเพื่อเพิ่มรสชาติ หัวใจหลักที่สำคัญที่สุดสำหรับนิกิริซูชิที่ดี ปริมาณข้าว รสชาติข้าว วาซาบิหรือซอสต่างๆ และปริมาณเนื้อปลาต้องสมดุลกัน เพื่อรสชาติที่ดีที่สุด ถือเป็นศาสตร์การปรุงอาหารที่ต้องฝึกฝนอย่างยาวนาน